ปารีณา ไกรคุปต์
ปารีณา ไกรคุปต์ ม.ว.ม., ป.ช. | |
---|---|
![]() | |
ปารีณาในปี 2563 | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2519 จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย |
พรรคการเมือง | ไทยรักไทย (2548–2549) ชาติไทย (2550–2551) ชาติไทยพัฒนา (2551–2556) เพื่อไทย (2556–2557) พลังประชารัฐ (2561–ปัจจุบัน) |
คู่สมรส | อุปกิต ปาจรียางกูร (หย่า) |
ชื่อเล่น | เอ๋ |
ปารีณา ไกรคุปต์ (ชื่อเล่น เอ๋ เกิด 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2519) เป็นนักการเมืองชาวไทย เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี เขต 3 และเป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ประพฤติมิชอบ[1] ชนะการเลือกตั้งมาแล้ว 4 สมัย
ประวัติ
ปารีณา ไกรคุปต์ เกิดเมื่อ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2519[2] เป็นชาวอำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี[2]
บิดาของปารีณา คือ นายทวี ไกรคุปต์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดราชบุรี[2] มารดาของปารีณา คือ นางสิริบังอร ไกรคุปต์
ปารีณาสมรสกับนายอุปกิต ปาจรียางกูร[2] มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ กล้าเกล้า ไกรคุปต์, อดิศรา ปาจรียางกูร และกิตตรา ปาจรียางกูร[2] ก่อนจะหย่าร้างกันในเวลาต่อมา
ปารีณาได้ปริญญาวิทยาศาสตรบัณฑิตและวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตจากสหรัฐ[3]
งานทางการเมือง
ปารีณาเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเขต 3 จังหวัดราชบุรี ตั้งแต่ พ.ศ. 2548 สืบต่อจากบิดา ครั้งแรกปารีณาลงสมัครในนามพรรคไทยรักไทย ต่อมาย้ายไปพรรคชาติไทย พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคพลังประชารัฐ ตามลำดับ
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2548 จังหวัดราชบุรี สังกัดพรรคไทยรักไทย
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 จังหวัดราชบุรี สังกัดพรรคชาติไทย → พรรคชาติไทยพัฒนา
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2554 จังหวัดราชบุรี สังกัดพรรคชาติไทยพัฒนา
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2562 จังหวัดราชบุรี สังกัดพรรคพลังประชารัฐ
ทั้งนี้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป 2 ครั้ง ที่ปารีณาได้ลงรับสมัครเลือกตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งนั้นเป็นโมฆะในภายหลัง
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป เมษายน พ.ศ. 2549 จังหวัดราชบุรี สังกัดพรรคไทยรักไทย
- การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2557 จังหวัดราชบุรี สังกัดพรรคเพื่อไทย
กระแสวิพากษ์วิจารณ์
การใช้คำพูด
ปารีณาเป็นผู้ทำให้คำว่า "อีช่อ" เป็นที่นิยมในการเรียกพาดพิงพรรณิการ์ วานิช (ชื่อเล่นว่า ช่อ) อย่างกว้างขวางในสังคม แต่ถูกสื่อสังคมวิจารณ์ว่าเป็นการใช้คำหยาบคายว่านักการเมืองจากพรรคอนาคตใหม่พรรคพวกของตน ปารีณาให้เหตุผลว่า "อีช่อ" เป็นคำท้องถิ่นและเป็นคำที่ใช้ในบ้านของตน[4] นอกจากนี้ ปารีณาทำนายว่าพรรคการเมืองพรรคหนึ่งจะถูกยุบ ทำให้สื่อสังคมคาดเดาไปต่าง ๆ นานา[5]
ในทวิตเตอร์มีการติดแฮชแท็กถึงปารีณามากมาย เช่น "#ปารีณาค้าอาวุธ" รวมถึงวิจารณ์การใช้คำผิด ๆ ของเธอ เช่น ปารีณาเขียนว่า "ลุงตู๋" ทำให้ผู้ใช้ทวิตเตอร์ติดแฮชแท็กว่า "#พลังประชารัฐโป๊ะแตก"[6]
การแสดงความคิดเห็นเชิงพาดพิง
ตอนหนึ่งที่ปารีณากล่าวถึงคณากร เพียรชนะ[7]
เมื่อวันที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2562 ปารีณาได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กส่วนตัววิจารณ์กรณีสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ หรือจ่านิว นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกทำร้าย ว่าเป็นการสร้างกระแสเพื่อใส่ร้ายรัฐบาล และเรียกคะแนนสงสาร[8] จนตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส สมาชิกพรรคเพื่อไทย วิจารณ์ปารีณาว่า ปารีณารู้ดียิ่งกว่าตำรวจ[9] พร้อมฝากคำถามถึงปารีณาเกี่ยวกับพิรุธในเหตุการณ์[9]
วันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2562 เวลา 17:25 น. ปารีณาได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีข้อความช่วงหนึ่งได้มีการกล่าวในเชิงพาดพิง หลังจากข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ ได้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก โดยเชื่อว่าเป็นการกล่าวถึงคณากร เพียรชนะ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลจังหวัดยะลา ที่ใช้อาวุธปืนยิงตัวเองหลังอ่านคำพิพากษา ภายในห้องพิจารณาคดีชั้น 3 ของศาลาจังหวัดยะลาเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ในปีเดียวกัน[10]
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2563 มีข่าวว่าปารีณาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวโต้เถียงกับ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี ซึ่งชาวเน็ตมองว่ากำลังเบี่ยงเบนความสนใจจาก CPTPP[11]
คดีความ
ฟาร์มไก่
![]() | ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
วันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้เร่งรัดตรวจสอบการถือครองที่ดิน ส.ป.ก. กรณีฟาร์มไก่เขาสนฟาร์ม ของปารีณา พบว่าอยู่เขต ส.ป.ก. กว่าพันไร่ ซึ่งที่ดินดังกล่าวมีชื่อของทวี ไกรคุปต์ บิดาของปารีณาเป็นผู้ถือครอง[12]
วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2562 ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า พร้อมกับสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบฟาร์มไก่ของปารีณา หลังจากที่ ส.ป.ก. ทำหนังสือถึงปารีณาให้คืนที่ดินจำนวน 682 ไร่ บริเวณฟาร์มไก่ ให้กับ ส.ป.ก. ภายใน 7 วัน อย่างไรก็ตาม ปารีณาได้ทำหนังสือส่งมอบคืนที่ดินทั้งหมดให้ทางเลขา ส.ป.ก. เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ที่ผ่านมา ธรรมนัสจึงเข้ามารับมอบคืนพื้นที่ด้วยตนเอง[13]
วันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2562 สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมจังหวัดราชบุรี ได้นำป้ายประกาศยึดพื้นที่ไปติดหน้าฟาร์มไก่ของปารีณา แต่ยังมีคนอยู่ข้างในพื้นที่ภายในฟาร์มไก่[14]
วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2563 เกิดเหตุเพลิงไหม้ในฟาร์มไก่โดยไม่ทราบสาเหตุ เหตุการณ์ครั้งนี้มีโรงไก่ถูกไฟไหม้เสียหาย 1 โรงเรือน แม้จะไม่มีไก่ในโรงดังกล่าวแล้ว แต่อุปกรณ์เลี้ยงไก่ที่อยู่ภายในได้เสียหายเกือบทั้งหมด ปารีณายืนยันว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเนื่องจากไม่มีการใช้ไฟฟ้าในฟาร์มไก่มานานแล้ว อีกทั้งผู้เห็นเหตุการณ์ในครั้งนี้ได้ยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากไฟป่า[15][16] อย่างไรก็ตาม หลังจากปารีณาได้โพสต์ภาพความเสียหายของฟาร์มไก่ที่ถูกเพลิงไหม้ ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ปรากฏว่ามีชาวสังคมออนไลน์ที่ใช้เฟซบุ๊กเข้ามากดปุ่มหัวเราะ(Haha) ในโพสต์ดังกล่าว ประมาณ 17,000 ครั้ง ขณะที่คนกดถูกใจ(Likes) อยู่ที่ประมาณ 3,500 ครั้ง ส่วนเสียใจ(Sad) อยู่ที่ประมาณ 500 ครั้ง[17]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น